กดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจ เอ้ากดเลย

?(*^ – ^*)?

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทลาย แก๊งเดอะกิ๊ก




ปฏิบัติการจับกุมตัว "พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์" อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (อดีตผบช.ก.) พร้อมกับพวกรวม 12 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ รวมทั้งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรวมถึงข้อหาอื่นๆ แตกต่างกันอีกหลายข้อหา ถือว่าสั่นสะเทือนวงการสีกากีเป็นอย่างมาก

เพราะมีไม่กี่ครั้งที่กล้าจับ "นายพลตำรวจ" ที่ได้ชื่อว่า มีอำนาจมากไม่แพ้ "ผบ.ตร." เพราะตำแหน่ง "ผบช.ก." นั้น...เปรียบไปก็เหมือน "ผบ.ตร.น้อยๆ" นั่นเอง ถือเป็นการปิดตำนาน "เดอะกิ๊ก-เจ้าพ่อสอบสวนกลาง" ที่เคยยิ่งใหญ่ไปเรียบร้อย

การตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อเช้าวันที่ 25 .ย.ที่ผ่านมา ของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ควงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง, พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร., พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผบก.ปทส. และพ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. มาร่วมด้วย จึงได้รับการจับตามองอย่างมากของบรรดาสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป

การแถลงข่าวมิได้นำตัว "ผู้ต้องหา" มาร่วม...เพียงแต่ฉายวิดิโอภาพผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ เกี่ยวกับพฤติการณ์ความผิด การบุกคุ้นที่บ้านพัก รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดได้

"คาดว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ คงกระทำความผิดมาหลายปีแล้ว เรื่องจำนวนเงินเรียกรับเพื่อตำแหน่งไม่ยืนยัน เงินที่ได้มาไม่ถูกต้อง ทั้งเปิดบ่อน วิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อขายตำแหน่งและน้ำมันเถื่อนเป็นหลัก ส่วนเงินที่มาจากคดี เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อ ขอไม่ชี้แจง ที่ผ่านมา มีบ่อนอยู่ทั่วประเทศ ผู้บังคับบัญชาในอดีต...ผมไม่ทราบว่ายังไง ระแคะระคายไหม แต่ยุคผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ ในอดีตคนรู้ว่า พงศ์พัฒน์มีอำนาจมากแค่ไหน ผมจะไม่ปล่อยในสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ผมจะรีบสร้างธรรมาภิบาลขึ้นใหม่ สำหรับคำถามเกี่ยวกับ 'เบื้องสูง' นั้น ขอไม่ตอบ"พล.ต.อ.สมยศกล่าว

หลังการแถลงข่าวจบสิ้น...แม้หลายเรื่องจะทำให้คลายความสงสัยลงได้ โดยเฉพาะพฤติการณ์ "แอบอ้างเบื้องสูง" แล้วเรียกรับส่วยต่างๆ รวมถึงการซื้อขายตำแหน่ง...ที่มีเสียงร่ำลือมานาน...

และเพราะการนั่งในเก้าอี้ "ผบช.ก." มานาน 4 ปีกว่า...แบบเหนียวแน่น ทำให้ "คนคิดย้าย" ไม่กล้า...เพราะเข้าใจว่า "เสียงร่ำลือ" นั้นเป็นจริง...แต่เมื่อ "ผบ.ตร.สมยศ" กล้าจับ...ไม่ว่ายิ่้งใหญ่แค่ไหน จึงทำให้สังคมส่วนหนึ่ง...เริ่มเชื่อมั่นและมีความหวัง!!!

แต่สังคมอีกส่วนหนึ่งก็ยังมีคำถามคาใจ โดยเฉพาะกับกรณีของพ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิ่มรัตน์ หรือ "อั้ม" อดีตผกก.1 ป. ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ด้วยการฆ่าตัวตายจากการกระโดดตึก และมีการรีบฌาปนกิจให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว...แบบเร่งรีบ...โดยที่ยังไม่ตอบคำถามคาใจว่า โดดตึกที่ไหน มีพยานรู้เห็นหรือไม่ พ่อแม่ญาติมิตรไม่ติดใจหรือ???

เหล่านี้ล้วนรอเวลาในการคลี่คลายเพื่อหาคำตอบ!!!

แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นผลดีในภาพใหญ่สำหรับปรากฏการณ์ทลายเครือข่าย "เดอะกิ๊ก-เจ้าพ่อสอบสวนกลาง" ที่เคยยิ่งใหญ่ก็คือ...การเห็นมุมสีเทาๆ ของแวดวงสีกากี...ที่มีมานาน สังคมรับรู้ว่ามีเกิดขึ้นจริง เพียงแต่ "ผู้มีอำนาจที่ผ่านมา" ไม่มีใครกล้าจัดการมากกว่า

เพราะเห็นว่า "สีกากี" คือ "มือไม้" ในการทำงาน หรือจ้องเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง!!!

ยิ่งได้เห็นคำสัมภาษณ์ของ "บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงการคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจแล้ว ต้องบอกว่า...ยังพอมีความหวังกับหนทางในการปฏิรูปตำรวจ...ตามเสียงเรียกร้องของประชาชน

"ขอบอกว่าไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ ผิดคือผิด ก็ต้องสู้คดีกันไป และอย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง การแต่งตั้งตำรวจจะต้องมีระบบคุณธรรม ถ้าการเมืองไม่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะทำให้ทุกเรื่องดี การเมืองต้องอยู่ในการเมือง ฝ่ายบริหารก็ต้องอยู่ฝ่ายบริหาร เส้นอำนาจระหว่างการบริหารและการปกครองมันชิดกันมาก แต่จะไปชี้ว่าต้องตั้งคนนั้นคนนี้ คงจะไม่ได้ ผมไม่เคยทำ ถ้าเขาเสนอมาแล้วไม่เห็นด้วย ก็ให้กลับไปทบทวนใหม่...รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวคิดในเรื่องการปฏิรูปตำรวจอยู่แล้ว โดยจะมีระบบคุณธรรมในการแต่งตั้ง และบังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม วันนี้มีการตั้งกองทุนยุติธรรม เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีเงินได้สู้คดี เป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางด้านกฎหมาย ตนฝันว่าจะปฏิรูปในทุกองค์กร รวมถึงกองทัพด้วย ไม่ใช่การไปยึด ไปรื้อ แต่ไปดูว่าทำอะไรแล้วเป็นประโยชน์ เกิดความไว้วางใจมากขึ้น โดยต้องเขียนกฎหมายที่สังคมยอมรับได้ และที่ต่างชาติใช้กันอยู่ และเอากฎหมายที่ต่างชาติใช้กันอยู่มาศึกษา เพราะถ้าเราเขียนของเราเอง ก็จะมโนไปเรื่อย"

อย่างที่บอก...อย่ามองเพียงด้านลบของแวดวงสีกากี...กรณีทลายเครือข่าย "เดอะกิ๊ก แอนด์ เดอะ แก๊ง" อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิรูปตำรวจ...โดยเฉพาะเรื่อง "การแต่งตัวบุคคล" ให้มีคุณธรรม...อย่างที่หลายคนคาดหวังจะให้เกิดขึ้นจริง...ก็เป็นได้

อยู่ที่ว่า "ผู้นำองค์กร" อย่าง "บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ.สมยศ" จะกล้านำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและกู้ศักดิ์ศรีของ "ตำรวจไทย" ให้กลับมาเป็นที่ยอมรับของประชาชนอีกครั้งหรือไม่...

อีกไม่นาน...คงได้รู้คำตอบ!!!