กดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจ เอ้ากดเลย

?(*^ – ^*)?

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พลัดพราก 54 ปี ลูกตามหาแม่เจอ






เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ร้านอาหารตามสั่งไม่มีเลขที่ ภายในซอยหัชนานิเวศหลังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต นายเชิดชัย ปัถมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้พานาง Kimberley Ferreive อายุ 54 ปี สาวใหญ่ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ พร้อมนาย Carlos Alberto สามี เดินทางมาตามหานางยกเลี่ยน จันทร์แก้ว อายุ 79 ปี มารดาชาวไทยที่พลัดพรากกันมากว่า 50 ปี หลังจากนางยกเลี่ยนมารดาและผู้เป็นพ่อแท้ๆ ชาวอังกฤษยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของเพื่อนชาวอังกฤษ หลังคลอดนาง Kimberley Ferreive ได้เพียง 6 เดือน เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่ค่อยดี

เมื่อนาง Kimberley Ferreive ได้พบหน้ามารดาเป็นครั้งแรกถึงกับดีใจน้ำตาไหลพรากพร้อมโผเข้ากอดนางยกเลี่ยนผู้เป็นมารดามา ขณะที่นางยกเลี่ยนเองก็ดีใจน้ำตาซึมเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอลูกสาวที่พลัดพรากกันมากว่า 54 ปี ก่อนจะนำเอกสารใบสูติบัตร แสดงหลักฐานการเกิด ระบุชื่อ ด.ญ.ตุ๊กตา จันทร์แก้ว เกิดเมื่อ 23 พ.ย. 2503 บ้านเลขที่ 139 ถนนราษฎร์บำรุง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมหนังสือเดินทางที่พ่อแม่บุญธรรมเก็บรักษาไว้

นาง Kimberley เล่าว่า ขณะนี้ตนเองได้ทำงานอยู่บริษัทรถโดยสารแห่งหนึ่งในเมืองบอสตัน ประเทศอังกฤษ และก่อนหน้าที่จะมาตามหา ได้มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพะงัน จ. สุราษฎร์ธานี พร้อมนำเอกสารใบสูติบัตรแสดงหลักฐานการเกิดไปให้นายทะเบียนท้องถิ่นตรวจสอบ ก่อนได้รับคำแนะนำว่าให้เดินทางไปที่อำเภอตามที่ระบุ ตนจึงเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอ ตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่อำเภอได้ประสานไปยังท้องถิ่น จึงทราบว่ามารดาได้ย้ายมาที่ จ.ภูเก็ต ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะช่วยตามหาจนทราบที่อยู่ จึงเดินทางมาพบในวันนี้ และรู้สึกดีใจที่แม่ผู้ให้กำเนิดยังมีชีวิตอยู่และหากเป็นไปได้ต้องการจะพาแม่ไปอยู่ด้วย

นาง Kimberley กล่าวต่อว่า ตนเองได้ไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะไปที่ประเทศอเมริกาและไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษจนถึงปัจจุบัน และทราบข่าวว่าผู้เป็นพ่อแท้ๆ ชาวออสเตรเลียได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 1999

ด้านนางยกเลี่ยน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สูกสาวของตนซึ่งไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอกันอีกจะติดตามหาจนได้พบกัน ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะพลัดพรากกันกว่า 50 ปี แล้วก็ตาม ตนเองก็ยังรู้สึกคิดถึงเสมอ วันนี้ได้พบกันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต พร้อมเล่าต่อว่า นาง Kimberley หรือ ด.ญ.ตุ๊กตา นั้นเป็นลูกของตนกับผู้จัดการเรือขุดแร่ชาวออสเตรเลีย ขณะที่ตัวเองทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในบ้านของเขาใน อ.ตะกั่วป่า แต่สามีคนดังกล่าวมีภรรยาอยู่แล้ว ตนจึงให้พี่ชายรับเป็นพ่อแทน และเหตุผลที่ต้องยกลูกสาวให้กับพ่อแม่บุญธรรมไป เนื่องจากฐานะทางครอบครัวขณะนั้นไม่ดีจึงต้องตัดสินใจให้ลูกอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ซึ่งเป็นวิศวกรขุดแร่ชาวอังกฤษที่ตนและสามีไว้ใจ ตอนนี้หากลูกสาวขอให้ไปอยู่ด้วยที่อังกฤษนั้นคงไม่สะดวกเพราะทางนี้ก็มีลูกๆ และครอบครัวที่ต้องดูแลกัน แต่ถ้าให้ไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมเป็นพักๆ นั้นตนเองก็ยินดี.